สิ่งที่ได้รับจากการวิ่งมินิมาราธอน

 

บทความโดย : คุณชายมะนาว..กับหุ้นสายสีลม     fanpage2

 

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม 2558 ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสเข้าร่วมแข่งขันรายการ “เดิน-วิ่ง สวนหลวง ร.๙ มินิมาราธอน ครั้งที่ 4” ที่จัดขึ้นภายในบริเวณสวนหลวง ร.๙ โดยผมเลือกที่จะเข้าแข่งขันวิ่งในระยะทาง 10 กิโลเมตร ซึ่งเป็นระยะทางที่ผมถนัดและชอบวิ่งมากที่สุด ก่อนหน้านี้ผมเคยเข้าแข่งขันในรายการวิ่งมินิมาราธอนระยะทาง 10 กิโลเมตร อยู่หลายสนาม แต่เนื่องจากผมเกิดอาการเจ็บที่หัวเข่าด้านซ้ายจึงจำเป็นจะต้องหยุดพักการวิ่งและห่างหายไปจากสนามแข่งขันเป็นเวลานานหลายปีเลยทีเดียว

การได้มีโอกาสเข้าร่วมแข่งขันในรายการวิ่งมินิมาราธอนอีกครั้ง จึงเป็นสิ่งที่ผมรู้สึกดีใจมากที่ได้กลับมาทำในสิ่งที่ตัวเองรักอีกครั้ง และในครั้งนี้ผมไม่ได้วิ่งเพียงคนเดียวเหมือนอย่างสนามอื่นๆที่ผ่านมา แต่ผมมีน้องชายที่รักที่เคารพนับถือกันมาร่วมวิ่งเคียงบ่าเคียงไหล่ไปด้วยกันกับผม ทำให้การวิ่งของผมและน้องในครั้งนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเลยแม้ว่าต่างคนต่างก็มีเม็ดเหงื่อเปียกชุ่มไปทั้งตัวด้วยกันทั้งคู่ก็ตาม

run3

 

ในทุกๆสนามแข่งขันที่ผ่านมารวมทั้งสนามแข่งขันในครั้งนี้ด้วยสิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตุเห็นในทุกๆสนามก็คือ ในสนามแข่งขันจะมีบุคคลที่เข้าร่วมทำการแข่งขันอยู่ 3 ประเภทคือ

1. ประเภทที่ต้องการเป็นผู้ชนะอันดับ 1 

ผู้เข้าแข่งขันประเภทนี้สามารถเรียกได้อย่างเต็มปากเลยว่า “เซียนสนาม” ตัวจริง เป็นนักวิ่งปอดเหล็กที่วิ่งเร็วมากๆ คนอื่นเขาวิ่งกันไปได้แค่ 2-3 กิโลเมตร บรรดาเซียนเหล่านี้ วิ่งไปจนจะถึงเส้นชัยอยู่แล้ว นักวิ่งปอดเหล็กประเภทนี้ก็ต้องขอคาราวะต้องยกนิ้วให้เขาล่ะครับ เพราะเขาสุดยอดจริงๆ

2. ประเภทที่ต้องการไปให้ถึงเส้นชัย

ผู้เข้าแข่งขันประเภทนี้จะวิ่งไปอย่างช้าๆ โดยตลอดระยะทางที่วิ่งจะมีจังหวะก้าวเท้าวิ่งออกไปอย่างสม่ำเสมอ  มั่นคงแน่นอนและผู้เข้าแข่งขันประเภทนี้จะประคับประคองตัวเองให้สามารถวิ่งไปถึงเส้นขัยได้ในที่สุด

3. ประเภทที่ต้องการเพียงแค่ให้ได้มาวิ่ง

ผู้เข้าแข่งขันประเภทนี้เมื่อเริ่มออกวิ่ง ณ.จุดที่ปล่อยตัว He , She, It , Are ,You, We ,They เขาเหล่านั้นก็จะออกวิ่งไปอย่างรวดเร็วมากๆ แล้วก็จะค่อยๆเริ่มหมดแรงจากวิ่งก็จะกลายเป็นเดินหลังจากที่วิ่งออกไปจากจุด Start ไปได้ไม่เกิน 3 กิโลเมตร

run4

สิ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือ การวิ่งมินิมาราธอนระยะทาง 10 กิโลเมตร มันไม่ใช่เป็นเพียงแค่การวิ่งเท่านั้น แต่มันคือการวางแผนทางความคิดและจิตใจของตัวเอง ในทุกย่างก้าวที่คุณก้าวเท้าวิ่งออกไป คุณต้องวางแผนที่จะควบคุมจังหวะการวิ่ง จังหวะการหายใจของคุณ คุณต้องคอยควบคุมจิตใจของตัวคุณเองอยู่ตลอดเวลาให้อดทนเพื่อให้สามารถประคับประคองตัวเองให้ไปถึงเส้นชัยในอีก 10 กิโลเมตร ข้างหน้าให้ได้ ไม่หมดแรงและล้มเลิกความตั้งใจไปตั้งแต่ 2-3 กิโลเมตรแรกของการออกวิ่ง

ซึ่งมันก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกับการใช้ชีวิตของคุณเลย มันจะมีประโยชน์อะไรที่คุณจะรีบร้อนเร่งรัดสร้างหนี้สร้างสินให้กับตัวคุณเอง ให้มีทุกสิ่งทุกอย่างเพียบพร้อม อย่างที่คุณใฝ่ฝันด้วยความรวดเร็วจนเกินตัว จนละเลยการออมการลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวคุณเอง แล้วสุดท้ายคุณก็ล้มลงหมดแรงที่จะวิ่งต่อไปให้ถึงเส้นชัยอย่างที่เคยคิดฝันเอาไว้

ค่อยๆก้าวออกไป..ค่อยๆคิด..ค่อยๆทำ..วางแผนการใช้ชีวิตวางแผนการลงทุนให้รอบคอบ..ไปอย่างช้าๆแต่มั่นคง แล้วคุณก็จะก้าวไปสู่เส้นชัยอย่างที่คุณใฝ่ฝันนั้นได้ในที่สุด.

run5

 

ขอบพระคุณทุกท่านที่กรุณาติดตาม หากไม่รังเกียจกรุณาช่วยกด Like facebook หรือช่วยแชร์ ส่งต่อสิ่งดีๆเหล่านี้ให้กับสังคม และขอเชิญมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแฟนเพจ..สังคมเล็กๆที่อบอุ่น เพื่อเป็นกำลังใจในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆคืนให้กับสังคมต่อไป.

fanpage2

บทความโดย : คุณชายมะนาว..กับหุ้นสายสีลม

https://stocksilomline.wordpress.com

 

คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อตลาดหุ้นอยู่ในช่วงขาลง

 

บทความโดย : คุณชายมะนาว..กับหุ้นสายสีลม     fanpage2

 

ในสภาพที่ตลาดหุ้นอยู่ในช่วงขาลงเพราะโดนคุณหมีตบซะหัวทิ่มไม่เป็นท่าซะขนาดนี้ และดูทีท่าว่าสภาพตลาดหมีที่เป็นอยู่นี้คงจะยังไม่จบเอาง่ายๆซะด้วยสิ..ก็เลยอยากจะให้คุณลองถามใจของคุณเองดูสิครับว่าเมื่อคุณเจอกับสภาพตลาดหมีอย่างนี้แล้ว คุณมีความรู้สึกอย่างไร ??

 

แน่นอนละครับว่าใครๆก็คงต้องเครียดด้วยกันทั้งนั้น พอร์ตหุ้นที่มีอยู่แดงเทือกกันทั่วหน้าอย่างนี้ จะมีอารมณ์มายินดีปรีดาอยู่ได้ยังไง แต่เชื่อมั๊ยครับว่ามีบางคนที่แอบดีใจอยู่เงียบๆเมื่อตลาดหมีมาเยือน

คุณลองถามตัวคุณเองดูสิครับว่าถ้าพอร์ตหุ้นของคุณติดลบมากกว่า 30% ขึ้นไปคุณมีความรู้สึกอย่างไรบ้าง ??

หากคุณรู้สึกกระวนกระวายนั่งลุ้นอยู่ตลอดเวลาว่าเมื่อไหร่หุ้นจะขึ้นซะที่นะ หากความรู้สึกของคุณเป็นแบบนี้ คุณก็ควรตระหนักไว้เสมอว่าทุกครั้งก่อนที่คุณจะตัดสินใจเข้าซื้อหุ้นคุณสมควรที่จะต้องกำหนดจุดตัดขาดทุน (Cut loss)  ของคุณไว้ด้วย จะกำหนดไว้ที่ 3% , 5% หรือ 10% ก็สุดแล้วแต่ขอบเขตที่คุณสามารถจะรับได้ ที่สำคัญคุณต้องมีระเบียบวินัยต้องยอมที่จะตัดการขาดทุน (Cut loss) ให้ได้ตามจุดที่คุณกำหนดไว้ หากคุณไม่ระเบียบวินัยคุณจะเสียหายหนักมาก (ร้องไห้หนักมากด้วย!!) เพราะยิ่งพอร์ตหุ้นของคุณติดลบมากขึ้นเท่าไหร่ คุณจะยิ่งมีความรู้สึกอึดอัด และยอมที่จะขายขาดทุนในจังหวะราคาหุ้นตกลงมาลึกมาก..ซึ่งเป็นจังหวะที่คุณสมควรจะซื้อหุ้นซะด้วยซ้ำ!!

 

หากคุณรู้สึกเฉยๆ พอร์ตหุ้นติดลบ 30% ก็แล้ว 50% ก็แล้ว  70% ก็แล้ว ยังรู้สึกเฉยๆ..นิ่งมากกก..เพราะปลง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ยอมจำนนกับราคาหุ้นที่ร่วงเอ๊าร่วงเอาจนไม่กล้าขาย กลายเป็น VI จำเป็นไป อันนี้คุณก็ควรตระหนักไว้ด้วยเหมือนกันนะครับว่าคุณต้องกำหนดจุดตัดขาดทุน (Cut loss)  ของคุณไว้ด้วยทุกครั้งก่อนตัดสินใจทำการเข้าซื้อหุ้นด้วยนะจ๊ะ แต่คุณมีข้อได้เปรียบมากกว่าคนกลุ่มแรกเพราะคุณยังพยายามที่จะรักษาเงินทุนของคุณไว้ ไม่คิดที่จะขายหุ้นในจุดที่ไม่สมควรจะขาย ดังนั้นการซื้อถัวเฉลี่ยในราคาหุ้นที่ตกลงมาต่ำมากๆจึงเหมาะกับการเป็นตัวคุณ สิ่งสำคัญคือคุณต้องรอให้ราคาหุ้นตกลงมาจนนิ่งสนิทก่อนนะครับแล้วจึงค่อยเข้าซื้อ.. และก่อนที่จะซื้อถัวเฉลี่ยกรุณาตรวจสอบให้รอบคอบก่อนนะครับว่ากิจการของหุ้นตัวนั้นยังอยู่ในสภาพที่ดีพอที่จะทำให้ราคาหุ้นกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้งแม้ว่าจะต้องรอนานสักหน่อยก็ตาม..โอเค..เคลียร์..!!

 

หากคุณรู้สึกดีใจและไม่ปล่อยเวลาว่างให้เสียไปตลาดหุ้นจะขึ้นหรือจะลง คุณศึกษาวิเคราะห์วางแผนการลงทุนอยู่ตลอดเวลา หากคุณเป็นคนประเภทนี้ ยืนยันได้เลยครับว่าคุณคือนักลงทุนตัวจริง เป็นนักลงทุนที่จะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน.. ฟันธง!! 

ลองถามตัวคุณเองดูนะครับว่าตัวคุณมีความรู้สึกอย่างไรกับสภาพตลาดขาลง เพื่อคุณจะได้เข้าใจได้รู้จักตัวตนของคุณเองในบทบาทของนักลงทุน จะได้เตรียมความพร้อมที่จะเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จในอนาคตข้างหน้าได้..ซึ่งคงจะอยู่อีกไม่ไกล.

 

ขอบพระคุณทุกท่านที่กรุณาติดตาม หากไม่รังเกียจกรุณาช่วยกด Like facebook หรือช่วยแชร์ ส่งต่อสิ่งดีๆเหล่านี้ให้กับสังคม และขอเชิญมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแฟนเพจ..สังคมเล็กๆที่อบอุ่น เพื่อเป็นกำลังใจในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆคืนให้กับสังคมต่อไป.

fanpage2

บทความโดย : คุณชายมะนาว..กับหุ้นสายสีลม

https://stocksilomline.wordpress.com

 

เลิกซะทีเถอะครับ..ถ้าอยากจะเล่นหุ้นให้รวย

บทความโดย : คุณชายมะนาว..กับหุ้นสายสีลม     fanpage2

ผมเชื่อนะครับว่า ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามต่างก็อยากจะมีเงินมีทองอยากจะรวยด้วยกันทั้งนั้น หลายคนเลือกที่จะลงทุนด้วยการเล่นหุ้น เพราะคาดหวังว่าความร่ำรวยที่ตลาดหุ้นจะมอบให้นั้นคงจะมีมาในไม่ช้า แต่จนแล้วจนรอดความร่ำรวยที่เฝ้าหาก็ไม่เคยมีมาให้ได้สัมผัสซะที มิหนำซ้ำกลับต้องเข้าเนื้อตัวเองมากขึ้นไปเรื่อยๆ ลงเป็นแบบนี้แล้วก็คงต้องมานั่งคิดทบทวนแล้วล่ะครับว่ามันเป็นเพราะอะไร..

ถ้าหากว่าอยากจะเล่นหุ้นแล้วให้รู้จักความร่ำรวยจริงๆกับเขาสักทีล่ะก็ คุณก็คงต้องเลิกพฤติกรรมที่คอยฉุดรั้งความร่ำรวยของคุณทั้งหลายเหล่านี้ซะทีเถอะครับ

1. ซื้อขายหุ้นบ่อยเกินไป

การซื้อขายหุ้นที่บ่อยมากจนเกินไปนอกจากจะทำให้คุณมีค่าใช้จ่ายในการซื้อขายที่เพิ่มมากขึ้นแล้ว(เพราะคุณต้องเสียค่านายหน้าในการซื้อขายต่อครั้งด้วย) มันจะทำให้คุณขาดความรอบคอบในการวิเคราะห์ข้อมูลก่อนการตัดสินใจซื้อขายหุ้นอีกด้วย เมื่อกระบวนการทางความคิดของคุณยังไม่ตกผลึกยังขาดความรอบคอบยังมีข้อบกพร่อง แล้วคุณจะคาดหวังผลกำไรจากการลงทุนในครั้งนั้นได้อย่าง
หุ้นมีให้ซื้อขายได้ทุกวันก็จริงแต่คุณก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องซื้อๆขายๆหุ้นทุกวี่ทุกวัน

2. ซื้อหุ้นขาลง

หลายคนไม่เคยคิดวิเคราะห์จับจังหวะสัญญานการลงทุนเลย ชอบเหลือเกินที่จะซื้อหุ้นในจังหวะที่หุ้นตัวนั้นๆอยู่ในช่วงขาลง ด้วยตรรกที่ว่าซื้อถูกขายแพง..มันก็ถูกแหล่ะครับที่ต้องซื้อถูกขายแพง แต่ไม่ใช่เข้าซื้อในจังหวะที่หุ้นตัวนั้นมันยังไหลจู๊ดๆอยู่อย่างนั้น
วิเคราะห์ให้ดีก่อนครับก่อนที่จะเข้าซื้อว่าไอ้ที่มันร่วงๆน่ะมันเพราะอะไร นั่งดูร่มๆใจเย็นๆก่อนครับ รอให้พายุสงบก่อนดีกว่านะถึงจังหวะนั้นถ้ายังอยากจะซื้ออยู่อีกล่ะก็ค่อยซื้อก็ได้

3. ไม่ศึกษาหาความรู้

แบบว่าชอบลอกการบ้านเพื่อน เพื่อนส่งอะไรมาก็ลอกหมด ไม่เคยฉุกคิด..ไม่เคยคิดที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ เพื่อให้สามารถวิเคราะห์การลงทุนได้ด้วยตัวเองเลย อยู่ในสนามนักลงทุนนี้ได้ก็ด้วยคาถาประจำตัวบทหนึ่งที่มักจะใช้ร่ายมนต์สะกดจิตใส่คู่สนทนาอยู่เสมอๆว่า “ซื้อหุ้นตัวไหนดีล่ะ ??”
ศึกษาเรียนรู้ให้มีอาวุธติดตัวไว้บ้าง อย่าลอกการบ้านเพื่อนให้มันมากนัก ประสบความสำเร็จด้วยลำแข้งของตัวเองมันน่าภูมิใจมากกว่ากันตั้งเยอะ

4. อดทนรอไม่เป็น

หลายคนจะรู้สึกอึดอัดกระสับกระส่ายไม่สบายตัวเมื่อหุ้นที่ตัวเองถืออยู่มันไม่ยอมไปไหนซะที หรือคลานต้วมเตี้ยมๆวนไปวนมาอยู่นั่นแหล่ะ นี่ขนาดอุตส่าห์รอมาตั้งนานแล้วนะ(ตั้งอาทิตย์นึงแน่ะ) อึดอัดเหลือเกินไปดีกว่า..ไม่ช้าไม่นานหันมาเห็นอีกทีราคาหุ้นตัวนั้นก็วิ่งไปซะไกลเกินเอื้อมแล้ว.. ฮือๆ..คุณหลอกดาว!!
ถามตัวเองให้ชัดว่าที่ลงทุนในหุ้นตัวนั้นน่ะเพราะอะไร อยู่ในตลาดหุ้นต้องมีความอดทนต้องรอให้เป็น

5. เป็นเจ้าบุญทุ่มนักบุญประจำตลาด

ผมเป็นคนที่ชอบทำบุญนะ แต่ถ้าให้ทำบุญสุนทานเป็นเจ้าบุญทุ่มจ่ายไม่อั้นในตลาดหุ้นล่ะก็ผมไม่เอาด้วยล่ะครับ หลายคนเป็นประเภทชอบเสี่ยง อยากซื้อหุ้นตัวไหนก็ซื้อด้วยความมั่นใจสุดๆ จัดเต็มจัดหนักตลอดไม่เคยมีแผนการลงทุนอะไรเลย จัดเป็นนักลงทุนประเภทโลกสวยที่ไร้ทิศทางการลงทุน จึงมักจะทำตัวเป็นนักบริจาคให้กับตลาดหุ้นเป็นนักบุญประจำตลาดที่น่านับถือไปในทีสุด
ยับยั้งชั่งใจสักนิดครับ หากจะซื้อก็ควรค่อยๆทยอยซื้ออย่าจัดหนักทีเดียวซื้อหุ้นแบบนี้เจ๊งหุ้นกันมาเยอะแล้วครับ

ทั้ง 5 ข้อที่ผมยกตัวอย่างมานี่หากยังมีอยู่ในตัวคุณก็ควรสลัดมันทิ้งไปซะ เพราะมันจะคอยฉุดรั้งความสำเร็จของคุณเอง.

ขอบพระคุณทุกท่านที่กรุณาติดตาม หากไม่รังเกียจกรุณากด Like ให้ด้วยนะครับ เพื่อเป็นกำลังใจในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆต่อไป

fanpage2

บทความโดย : คุณชายมะนาว..กับหุ้นสายสีลม

https://stocksilomline.wordpress.com

ภาพประกอบจาก Internet

หุ้นที่ใช่..ใจที่ชอบ

บทความโดย : คุณชายมะนาว..กับหุ้นสายสีลม     fanpage2

 

เดิมทีวันนี้ตั้งใจจริงๆที่จะเขียนบทความในด้านทิศทางการลงทุน แต่ในระหว่างที่กำลังนั่งเรียบเรียงประติดประต่อความคิดให้ลงตัวอยู่นั้น จู่ๆก็มีประโยคหนึ่งแว๊บเข้ามาในสมอง “หุ้นที่ใช่..ใจที่ชอบ” ประโยคนี้มันรู้สึกโดนใจขาโจ๋ขึ้นมาทันทีเลย ก็เลยเป็นอันว่าจะต้องวางความคิดที่จะเขียนบทความทิศทางการลงทุนเอาไว้ก่อน เพราะประโยคที่ว่า “หุ้นที่ใช่..ใจที่ชอบ” มันเจ็บจี๊ดโดนใจโจ๋มากกว่า  วันนี้ก็เลยขออนุญาตเขียนอะไรที่เบาๆสักนิดแต่ก็จะยังคงแแฝงสาระความรู้ในด้านการลงทุนไว้เหมือนเดิม



ประโยคที่ว่า “หุ้นที่ใช่..ใจที่ชอบ” จะว่าไปแล้วมันก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกับชีวิตจริงของเราเลย..ในช่วงชีวิตของคนเรามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับกับการที่จะได้พบเจอกับใครสักคนที่เป็นคนที่ใช่ของเราจริงๆ..แม้ว่าคนๆนั้นเมื่อแรกพบเราอาจจะไม่ได้ชอบเอาซะเลย และตัวเขาเองก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเราด้วยเหมือนกัน..

เขากับเราอาจจะแตกต่างกันจนสุดขั้ว แต่เพราะความที่เขาคือคนที่ใช่..สุดท้ายคนๆนั้นก็คือคนที่เราตั้งใจที่จะยืนอยู่เคียงข้างเขาตลอดไป

 

และในทำนองเดียวกันคนประเภท “ใจที่ชอบ” ก็มักจะวนเวียนผ่านเข้ามาในชีวิตของเราคนแล้วคนเล่านับครั้งไม่ถ้วน คนเหล่านั้นแม้ว่าใจของเราจะชอบอย่างไรก็ตาม แต่สุดท้ายคนเหล่านั้นก็ไม่ใช่คนที่ใช่ และก็ต้องแยกย้ายกันไปในที่สุด!!

การเลือกหุ้นเพื่อที่จะสร้างผลกำไรที่งดงามให้กับเรานั้น ก็เหมือนกับการที่เราได้พบกับคนที่ใช่ หุ้นที่ตัวเราเองก็อาจจะไม่ได้ชอบมันเลย เพราะมันไม่หวือหวา..มันดูน่าเบื่อ!! ราคาหุ้นที่นิ่งสนิทติดทนนาน เอาไม้เขี่ยยังไงก็ยังไม่ยอมขยับ!!  แต่เพราะความที่เรามองเห็นอนาคตของมัน เราเห็นความเจริญเติบโตของมันอย่างช้าๆ..เหมือนกับการที่เราและคนที่ใช่ของเราต่างอดทนรอคอยและเติมเต็มความรักความอบอุ่นให้กันและกัน..เหมือนการอดทนรอคอยทานก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเนื้ออันแสนอร่อย..!!

ภาพถ่าย0112

ตรงกันข้ามหุ้นที่มีการซื้อขายกันอย่างหวือหวา หุ้นที่ขายโครงการในฝัน เรากลับชอบที่จะวิ่งเข้าหา ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าหุ้นเหล่านั้นมีผลประกอบการที่ขาดทุนปีแล้วปีเล่า..!! เพิ่มทุนแล้วเพิ่มทุนอีก.. แต่เพราะความที่ใจเราชอบ เราจึงเกิดอาการเจ็บแล้วไม่รู้จักจำ..ชีช้ำกระหล่ำเปียกซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่นั่นแหล่ะ!!!

ดังนั้นการเลือกลงทุนในหุ้นที่มองพื้นฐานของกิจการ และภาพของการเติบโตในระยะยาวของกิจการนั้นเป็นหลัก จึงเป็นสิ่งที่นักลงทุนอย่างเราสมควรที่จะใส่ใจและเลือกที่จะเข้าลงทุน แม้ว่าจะต้องอดทนรอคอยอย่างน่าเบื่อก็ตาม..

ก็เหมือนกับการที่เราได้พบกับคนที่ใช่ แม้ว่าวันนี้เราอาจจะไม่ชอบใจเขา อาจจะดูต่างขั้วกันก็ตาม แต่ความจริงใจที่ต่างมีให้กัน ความอดทนรอคอยซึ่งกันและกัน และเต็มใจที่เติมเต็มความรักความอบอุ่นให้แก่กันและกัน จะเป็นสิ่งที่จะช่วยหล่อหลอมคุณค่ากำไรแห่งชีวิตจากคนที่ใช่..คนที่พร้อมจะยืนอยู่เคียงข้างกัน..ตลอดไป.

 

 

ขอบพระคุณทุกท่านที่กรุณาติดตาม หากไม่รังเกียจกรุณากด Like ให้ด้วยนะครับ เพื่อเป็นกำลังใจในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆต่อไป

fanpage2

บทความโดย : คุณชายมะนาว..กับหุ้นสายสีลม

https://stocksilomline.wordpress.com

ภาพประกอบจาก Internet

เทคนิคเล่นหุ้นให้เก่ง

บทความโดย : คุณชายมะนาว..กับหุ้นสายสีลม     fanpage2

 

 

ในความคิดของคนหลายๆคนมักจะคิดว่าการเล่นหุ้นนั้นเป็นเรื่องที่ยาก ก็แหม..!! ไม่ได้จบบัญชี ไม่ได้จบการเงินมาซะกะหน่อย อ่านงบการเงินก็ไม่เป็น วิเคราะห์เศรษฐกิจก็ไม่ออก แต่หัวใจมันเรียกร้องอยากจะเล่นหุ้นน่ะ ถึงมันจะยากสักหน่อยก็ถูๆไถๆตามๆเขาไปก็แล้วกัน..ก็เราไม่ได้เก่งอย่างเขานี่ทำไงได้..

จริงๆแล้วการเล่นหุ้นมันไม่ได้ยากอย่างที่คุณคิดหรอกครับ มีเยอะแยะไปที่คนจบบัญชี จบการเงิน จบเศรษฐศาสตร์มาแต่ก็เจ๊งหุ้น..ทำไมมันถึงเป็นอย่างนั้นล่ะครับ ??  ที่มันเป็นอย่างนั้นก็เพราะว่าตลาดหุ้นมันคือสงครามจิตวิทยาที่มันดูเหมือนว่าจะมีเหตุผลแต่ในเวลาเดียวกันมันกลับไม่มีเหตุผลเอาซะเลย เพราะฉะนั้นถ้าคุณต้องการเล่นหุ้นให้เก่งคุณต้องมีทั้งเหตุผลและจินตนาการควบคู่กันไป

ปัญหาคือแล้วจะทำยังไงล่ะที่จะทำให้เล่นหุ้นได้เก่งหรืออย่างน้อยก็สามารถเอาตัวรอดในตลาดหุ้นได้ ..??

ผมมีข้อเสนอแนะเทคนิคเล็กๆน้อยๆที่จะนำมาแชร์เล่าสู่กันฟังดังนี้ครับ

  1. ใช้เครื่องมือให้เหมาะกับตัวเอง

คุณต้องสำรวจตัวคุณเองก่อนว่าคุณมีความถนัดที่จะใช้เครื่องมือใดบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบผลประกอบการจากงบการเงิน , การใช้กราฟหุ้น หรือ การวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์จากข่าว สิ่งเหล่านี้มันคืออาวุธคู่กายของคุณ คุณไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร ไม่จำเป็นต้องตามใคร ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับตัวคุณและคุณควรที่จะต้องค้นหามันให้เจอ ตัวอย่างเช่น หากคุณมีความถนัดในการดูกราฟ กราฟที่คุณดูเส้นกราฟที่คุณเข้าใจก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปเหมือนใคร คุณอาจจะตีเส้น Trend line อาจจะดูจากเส้น MACD หรือดูเพียงกราฟแท่งเทียน อะไรก็แล้วแต่ แต่สิ่งเหล่านั้นมันเป็นสิ่งที่คุณถนัดและคุณเข้าใจ และมันทำให้คุณประเมินสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้าได้

  1. ขยันฝึกซ้อม

คุณต้องพยายามฝึกซ้อมคุณต้องทำการบ้าน ต้องพยายามหัดใช้เครื่องที่คุณรู้สึกถนัดให้คล่องแคล่ว ยิ่งคุณฝึกซ้อมมากเท่าไหร่คุณก็ยิ่งสามารถที่จะประเมินสถานการณ์ต่างๆได้อย่างแม่นยำมากขึ้นเป็นเงาตามตัว

  1. เผื่อแผ่ความรู้

เมื่อคุณมีความรู้ความเข้าใจในระดับหนึ่งแล้ว คุณควรจะเผื่อแผ่ความรู้เหล่านั้นให้กับผู้อื่นบ้าง เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับตัวคุณเอง และจะเป็นการยกระดับความรู้ความสามารถของคุณให้เพิ่มมากขึ้นไปอีกด้วย เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณลงมือให้ความรู้กับคนอื่นนั่นหมายความว่าคุณจะมีความรู้ความเข้าใจในสิ่งนั้นอย่างถ่องแท้ และอะไรก็ตามที่คุณคิดว่าตัวคุณเองยังไม่รู้คุณก็จะพยายามขนขวายหาความรู้เหล่านั้นมาอุดช่องโหว่ของตัวคุณเอง

 

เทคนิค 2-3 ข้อที่ผมกล่าวมานี้มันจะช่วยทำให้คุณเล่นหุ้นได้เก่งขึ้นเรื่อยๆ แต่สิ่งหนึ่งที่คุณต้องเจอไม่ว่าขณะนั้นคุณจะเก่งหรือไม่ก็ตามนั่นก็คือ คุณจะต้องเจอกับบุคคลประเภทหนึ่ง ที่จะมีแต่คำพูดที่ดูถูกทับถมคุณตลอดเวลา ประมาณว่า วิเคราะห์ได้ห่วยมากๆ, กระจอก , วิเคราะห์อย่างกับเด็กประถม อะไรประมาณนี้ คุณจงจำไว้ว่าอย่าได้ท้อใจเป็นอันขาดเมื่อได้เจอกับคนประเภทนี้ (ซึ่งคุณจะต้องได้เจอแน่นอน 100%) สำหรับผมน่ะผมกลับรู้สึกสงสารคนประเภทนี้นะ เขาไม่มีทางที่จะเจริญก้าวหน้าไปมากกว่านี้หรอก เพราะทิฐิที่อยู่ในใจของเขาเอง ทิฐิที่คอยเอาแต่คิดว่าตัวเองเก่งกว่าคนอื่่นซึ่งมันจะทำให้เขาไม่คิดที่จะเปิดใจรับฟังและหาความรู้ให้กับตัวเองไปมากกว่านี้

ถ้าคุณรู้สึกแย่ที่ได้เจอกับคนประเภทนี้ล่ะก็ ผมขอแนะนำให้คุณคิดเพียงแค่ว่า ก็ผีเจาะปากมาให้พูด..ปล่อยๆมันไปเหอะ.

 

 

หากไม่รังเกียจกรุณากด Like ให้ด้วยนะครับ เพื่อเป็นกำลังใจในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆต่อไป

fanpage2

บทความโดย : คุณชายมะนาว..กับหุ้นสายสีลม

https://stocksilomline.wordpress.com

ภาพประกอบจาก Internet

ในวันที่หุ้นตก 19 จุด

บทความโดย : คุณชายมะนาว..กับหุ้นสายสีลม     fanpage2

เมื่อวานนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ตลาดหุ้นที่รักเกิดอาการเมาหมัดอย่างแรงหลังจากที่หยุดยาวไปหลายวัน พอเปิดตลาดมาปุ๊บตลาดก็เหมือนโดนถูกน๊อคออกอาการเข่าทรุดร่วงลงไปถึง 19 จุดเลยทีเดียวเชียว พาเอาบรรดาเม่าตัวน้อยๆทั้งหลายแหล่เลือดตกยางออกซิบๆกันถ้วนหน้า และเมื่อดูทีท่าแล้วก็เห็นแววว่าตลาดหุ้นอันเป็นที่รักน่าจะยังออกอาการไหลจู๊ดๆไม่หยุดซะด้วยสิ..

ประเด็นมันก็เลยอยู่ที่ว่าแล้วแมงเม่าตัวน้อยๆตาดำๆอย่างเรานี่น่ะจะทำยังไงดี ?? คำตอบนั้นมันอยู่ที่เป้าหมายในการลงทุนของคุณเป็นหลักน่ะครับ

คุณต้องตอบตัวเองให้ชัดเสียก่อนครับว่า หุ้นตัวที่คุณถืออยู่นั่นน่ะคุณตั้งใจจะลงทุนกับหุ้นตัวนั้นในรูปแบบไหน

หากเป้าหมายในการลงทุนกับหุ้นตัวนั้นเกิดจากการลงทุนระยะยาว คุณก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องไปสนใจกับความผันผวนของตลาด ราคาหุ้นที่เหวี่ยงไปมามันเกิดขึ้นจากอารมณ์ความรู้สึกของคนไม่ได้เกิดจากความเป็นจริงที่แสดงออกมาในรูปของพื้นฐานของกิจการ ยิ่งหุ้นตัวที่คุณถือจัดเป็นหุ้นพื้นฐานดีแล้วล่ะก็ ไม่ว่าตลาดหุ้นจะตกไป 19 จุด 20 จุด ราคาหุ้นมันก็ไม่ไปไหนไกลหรอกครับไม่กี่วันราคาหุ้นมันก็จะกลับมาสู่พื้นฐานความเป็นจริงของมันเอง

แต่หากเป้าหมายการลงทุนของคุณอยู่ที่การเล่นรอบ คุณก็สมควรที่จะต้องมีจุดที่คุณใช้ตัดสินใจที่จะขายหุ้นตัวนั้นออกไปซะก่อนแล้วค่อยมาว่ากันใหม่

และถ้าหากเป้าหมายการลงทุนของคุณกับหุ้นต้วนั้นเป็นเพียงแค่การเก็งกำไรเพื่อความมันส์ในอารมณ์ ซื้อตอนที่กำลังเบลอๆประมาณว่ากูม่ายรู้กูมาว เห็นอะไรน่าสอยก็สอยมันมั่วไปหมด ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็นะผมแนะนำว่ารีบเผ่นเถอะครับ cut loss ไปเถอะครับ ถึงตอนนี้ขามันจะขาดแต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้มันลุกลามไปมากกว่านี้ แขนขาด คอขาด เดสสะมอเร่กันพอดี

เพราะฉะนั้นการเข้าใจตัวเอง เข้าใจลักษณะการตัดสอนใจลงทุนในหุ้นแต่ละตัวของคุณมันจะช่วยให้คุณอยู่รอดกับความผันผวนของตลาดหุ้นได้เป็นอย่างดี ตลาดหุ้นที่รักจะตกไปอีกสักกี่จุดก็ช่างมันเถอะ แต่สิ่งสำคัญคือคุณต้องรู้ตัวคุณเองว่าคุณกำลังทำอะไร.

หากไม่รังเกียจกรุณากด Like ให้ด้วยนะครับ เพื่อเป็นกำลังใจในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆต่อไป

fanpage2

บทความโดย : คุณชายมะนาว..กับหุ้นสายสีลม

https://stocksilomline.wordpress.com

ภาพประกอบจาก Internet

ธรรมะกับการเล่นหุ้น

บทความโดย : คุณชายมะนาว..กับหุ้นสายสีลม     fanpage2

 

 

เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันวิสาขบูชา อันเป็นวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผมจึงอยากจะขอยกพระสูตรของพระองค์ท่านที่ผมยึดถือและปฏิบัติมาโดยตลอดเพื่อให้ทุกท่านได้เห็นภาพว่าเราสามารถที่จะนำธรรมะคำสั่งสอนของพระองค์ท่านมาประยุกต์ใช้กับการลงทุนของเรานั้นได้อย่างไร

พระสูตรที่ผมจะขอยกขึ้นมากล่าวไว้ในที่นี้นั่นก็คือ “คิริมานนทสูตร” ในบทพระสูตร “การปล่อยวาง” ซึ่งผมจะขอยกบทพระสูตรนี้มาเพียงบางส่วนเท่านั้น ในเนื้อความพระองค์ทรงตรัสเทศนาธรรมแด่พระอานนท์ว่า

 

“..ดูกรอานนท์ เราตถาคตแสดงว่าให้ปลงใจให้วางใจนั้นเราชี้ข้อสำคัญที่สุดมาแสดง เพื่อให้รู้ให้เข้าใจได้ง่าย

การวางใจปลงใจนั้น คือ วางสุขวางทุกข์ วางบาปบุญคุณโทษ วางโลภ โกรธ หลง วางลาภยศ นินทาสรรเสริญหมดทั้งสิ้นเหมือนดังไม่มีหัวใจ จึงชื่อว่าทำให้เหมือนแผ่นดิน ถ้ายังทำไม่ได้ อย่าหวังว่าจะได้โลกุตตรนิพพานเลย

ถ้าทำตัวให้เหมือนแผ่นดินได้ในกาลใด พึงหวังเถิดซึ่งโลกุตตร นิพพานคงได้คงถึงในกาลนั้นโดยไม่ต้องสงสัย

พระนิพพาน เป็นของได้ด้วยยากยิ่งนัก แสนคนจะได้แต่ละคนก็ทั้งยาก

ดูกรอานนท์ ผู้มิได้ทำอริยมรรคปฏิปทาให้เต็มที่ยังเป็นปุถุชนหนาไปด้วยกิเลสหาปัญญามิได้และจะวางใจทำตัว ให้เป็นเหมือนแผ่นดินนั้น ไม่อาจทำได้เลย

 

เหตุที่เขาวางใจ ไม่ได้ เขายังถือตัวถือใจอยู่ว่าเป็นของของตัวแท้ จึงต้อง ทรมานทนทุกข์อยู่ในโลก เวียนว่ายตายเกิดแล้ว ๆ เล่า ๆ ไม่มีสิ้นสุด..”

 

คุณเคยสังเกตตัวคุณเองบ้างมั๊ย ในบางครั้งทั้งๆที่เราได้กำไรจากการขายหุ้นในครั้งนั้นแต่เรากลับรู้สึกทุกข์ใจ หงุดหงิด รู้สึกโทษตัวเองว่าทำไมเราต้องขายหมูออกไปด้วยนะ  หรือกระวนกระวายใจอยู่ไม่เป็นสุขเมื่อหุ้นตัวที่เราถืออยู่มันอยู่ในช่วงขาลง ผมเชื่อนะครับว่าทุกคนต้องเคยเกิดความรู้สึกแบบนี้ขึ้นกับตัวเอง

 

การที่เรารู้สึกทุกข์ใจอยู่กับการเล่นหุ้นทั้งๆที่เราได้กำไรจากมัน ก็เป็นเพราะว่าการที่เราไม่รู้จักการวางใจปลงใจ เรายังคงยึดมั่นถือมั่นอยู่กับความโลภ ความหลง โลภที่ต้องการจะได้ และทุกข์ใจเพราะความหลงยึดมั่นถือมั่นใคร่มีใคร่เป็น

หากเราสามารถวางใจปลงใจและทำใจของเราให้หมือนแผ่นดินได้  ความทุกข์ที่เกิดความโลภ ความกลัวที่เกิดจากความหลง หลงยึดมั่นอยู่กับราคาหุ้นที่แกว่งไปมา ตราบนั้นเราจะยังคงอยู่กับความสุขได้เสมอ.

“ปล่อยวางใจให้เหมือนแผ่นดิน”

fanpage2

บทความโดย : คุณชายมะนาว..กับหุ้นสายสีลม

https://stocksilomline.wordpress.com

ภาพประกอบจาก Internet

Panic sell

บทความโดย : คุณชายมะนาว..กับหุ้นสายสีลม     fanpage2

 


ผมเชื่อว่านักลงทุนที่อยู่ในตลาดหุ้นมานานสักระยะหนึ่ง คงจะต้องเจอกับเหตุการณ์ที่เรียกกันว่า Panic sell ด้วยกันทุกคน   Panic sell ก็คือ การที่ดัชนีตลาดหุ้นตกลงมาอย่างรวดเร็วและรุนแรง อันเกิดมาจากอาการ “ตกใจกลัว” ของนักลงทุนในตลาดหุ้น เป็นอาการตกใจกลัวของนักลงทุนที่เกิดขึ้นพร้อมๆกันทั้งตลาดจะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม แต่นักลงทุนโดยส่วนใหญ่หรือทั้งตลาดก็ยินยอมพร้อมใจที่จะเทขายหุ้นที่ตัวเองถืออยู่เพื่อ “หนีตาย”กันอย่างไม่นึกถึงเหตุผลหรือพื้นฐานของกิจการเลย จนบางครั้งตลาดหุ้นไทยต้องใช้มาตรการระงับการซื้อขายหุ้นเพื่อให้นักลงทุนได้มีเวลาตั้งสติและป้องกันไม่ให้สถานการณ์การซื้อขายหุ้นเลวร้ายลงไปกว่าเดิม

สาเหตุของการเกิด Panic sell อาจเกิดจากข่าวจริงหรือข่าวลวงก็ได้ แต่ข่าวเหล่านั้นก็มีอิทธิพลมากพอที่จะทำให้นักลงทุนเกิดอาการ “ตกใจกลัว” และกระหน่ำขายหุ้นออกมาพร้อมๆกันได้อย่าง “บ้าคลั่ง” ตัวอย่างเช่น กรณีวิกฤติหนี้ในยุโรปในปี 2551 ทำให้เกิดความกังวลของนักลงทุนในวิกฤติทางการเงินที่อาจจะลุกลามไปทั่วโลก และในวันที่ 10 ตุลาคม 2551 ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงมาอย่างหนัก ตลาดหุ้นไทยเกิดอาการ Panic sell  โดยดัชนีตลาดหุ้นไทยร่วงลงไปถึง 50 จุด จนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ต้องใช้มาตรการหยุดการซื้อขายชั่วคราว (Circuit Breaker) เป็นเวลา 30 นาที  หรือในกรณีวันที่เกิดสึนามิ ที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 2554 ในช่วง 1 ชม. สุดท้ายของการซื้อขายหุ้นในบ่ายวันนั้นดัชนีตลาดหุ้นไทยร่วงลงมาอย่างรวดเร็วนับ 10 จุด จากอาการ Panic sell ก่อนที่ดัชนีจะดีดกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน และในอีก 2-3 วันต่อมาก็เกิดเหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมาไอ-อิจิ ของญี่ปุ่นเกิดการระเบิด พร้อมกับข่าวการรั่วไหลของกัมมันตภาพรังสี ซึ่งก็มีผลทำให้เกิดเหตุการณ์ Panic sell กับตลาดหุ้นทั่วโลกอีกครั้งเนื่องจากความกังวลของนักลงทุนต่อข่าวดังกล่าว

การเกิด Panic sell อาจเกิดได้ทั้งตลาดหรืออาจเกิดกับกลุ่มอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง หรืออาจเกิดขึ้นเฉพาะกับหุ้นบางตัวก็ได้ แต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือราคาหุ้นจะตกลงมาอย่างรวดเร็วและรุนแรงจนราคาหุ้นต่ำกว่าราคาพื้นฐานเหมือนๆกัน

หากเหตุผลของการเกิด Panic sell ไม่ได้มีผลกระทบกับสภาวะเศรษฐกิจ การเกิด Panic sell จะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เมื่อทุกคนในตลาดเริ่มหายตกใจและมีสติกลับคืนมาอีกครั้ง ราคาหุ้นก็จะดีดกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ความโกลาหลในตลาดหุ้นก็จะกลับมาอีกครั้งแต่คราวนี้จะเป็นอาการ “แย่งกันซื้อหุ้น” เพราะราคาหุ้นที่ร่วงลงมาอย่างหนักจนกลายเป็นหุ้นราคาถูกนั่นเอง

แต่หากเหตุผลของการเกิด Panic sell กระทบกับสภาวะเศรษฐกิจโดยตรง การเกิด Panic sell จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ยาวนานและโอกาสที่ราคาหุ้นจะพื้นตัวกลับคืนมาได้อีกครั้งก็ต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนานด้วยเช่นเดียวกัน ตามสภาพการฟื้นตัวของสภาวะเศรษฐกิจ

 

fanpage2

บทความโดย : คุณชายมะนาว..กับหุ้นสายสีลม

https://stocksilomline.wordpress.com

เล่นหุ้นอย่างไรให้มีความสุข ตอนที่ 4 (ตอนจบ)

 

เล่นหุ้นอย่างไรให้มีความสุข ตอนที่ 4 (ตอนจบ)

บทความโดย : คุณชายมะนาว..กับหุ้นสายสีลม 

https://stocksilomline.wordpress.com

ในสภาวะที่ตลาดหุ้นอยู่ในสภาพขาลงจนเป็นสภาวะของตลาดหมีเหมือนอย่างที่กำลังเป็นอยู่ในเวลานี้ หลายคนคงจะออกอาการกลุ้มใจ รู้สึกกระสับกระส่าย จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ยิ่งเห็นหุ้นของตัวเองที่กำลังถืออยู่ออกอาการไม่รักดี..เล่นตกเอ๊าตกเอาอยู่อย่างนี้ เห็นแล้วก็ยิ่งกลุ้มใจที่เห็นพอร์ตของตัวเองแดงเทือกเข้าไปทุกทีๆ ไอ้ครั้นจะขายก็ใจไม่ด้านพอ เล่นลงจนพอร์ตติดลบ 40% -50% ซะขนาดนั้นใครจะไปขายได้ลง สุดท้ายก็ได้แต่นั่งถอนหายใจบางคนอาจถึงกับถอดใจ..เฮ้อ..!! เล่นหุ้นทำไมมันถึงได้เครียดขนาดนี้น๊าา ..??

 

จะว่าไปแล้วการเล่นหุ้นมันไม่ได้เครียดขนาดนั้นหรอกครับ คุณสามารถที่จะทำชีวิตของตัวคุณให้มีความสุขได้ ไม่ว่าสภาพของตลาดหุ้นในเวลานั้นมันจะอยู่ในสภาพใดก็ตาม ตลาดหุ้นจะอยู่ในช่วงขาขึ้นหรืออยู่ในช่วงขาลง คุณก็สามารถที่จะอยู่กับมันได้อย่างมีความสุข เพียงแค่คุณลองค้นหาความสุขนั้นให้เจอแล้วใช้มันให้เป็น..เท่านั้นเอง

สำหรับบทความนี้จะเป็นตอนที่ 4 (ตอนจบ) ภายใต้หัวข้อ “เล่นหุ้นอย่างไรให้มีความสุข”

(เล่นหุ้นอย่างไรให้มีความสุข ตอนที่ 1)

(เล่นหุ้นอย่างไรให้มีความสุข ตอนที่ 2)

(เล่นหุ้นอย่างไรให้มีความสุข ตอนที่ 3)

ว่าเราก็ไปแกะรอยกันเลยดีกว่าครับว่าเราจะเล่นหุ้นอย่างไรให้มีความสุขในช่วงที่ตลาดหุ้นยังอยู่ในสภาพขาลงอย่างนี้

 

  1. ถอยห่างออกมา

ครับ..!! คุณควรจะถอยห่างออกมาสักก้าว 2 ก้าว เพราะคุณไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาให้ตลาดกลับมาอยู่ในสภาพตามความต้องการของคุณได้ ดังนั้นการถอยห่างออกมาออกไปลั่นล๊าดูหนังฟังเพลงลืมๆเรื่องหุ้นซะบ้างมันจะเป็นประโยชน์และส่งผลดีสำหรับตัวคุณมากกว่าที่คุณจะนั่งจมปรักอยู่กับมันรอเวลาเมื่อไหร่น๊าา..ราคาหุ้นมันถึงจะขึ้น..?? ให้ความทุกข์มันเกาะกินใจของคุณเข้าไปทุกทีๆ

คุณต้องตระหนักไว้เสมอว่าหุ้นมันไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต และทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะเดินผิดพลาดด้วยกันทั้งนั้น ดังนั้นเมื่อคุณพบปัญหาคุณควรจะถอยห่างออกมาแล้วตั้งสติค่อยๆคิดพิจารณาว่าสาเหตุที่คุณผิดพลาดนั้นเป็นเพราะอะไร..??

 

ในการแก้ปัญหาคุณควรทำตัวให้เหมือนนกที่บินอยู่บนฟ้าเมื่อมองลงมาก็จะเห็นภาพต่างๆที่กว้างขึ้น การถอยห่างออกมาแล้วมองภาพตลาดหุ้นในมุมที่กว้างขึ้นมันจะทำให้คุณเห็นช่องทางการแก้ปัญหาของคุณได้ และคุณจะมีความสุขมากยิ่งขึ้นเมื่อคุณสามารถที่จะแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ด้วยตัวของคุณเอง

เป็นไงครับ..มันไม่ยากเลยใช่มั๊ยครับ ที่เราจะค้นหาความสุขให้เจอ แล้วรู้จักที่จะใช้มัน ก็หวังว่าทุกๆวิธีที่ผมได้นำมาแชร์เล่าสู่กันฟังนี้อาจจะเป็นประโยชน์กับคุณบ้างไม่มากก็น้อย แต่ถ้าทุกวิธีที่ผมนำมาแชร์นี้ยังไม่สามารถทำให้คุณมีความสุขกับการเล่นหุ้นได้อีก..คราวนี้ก็คงต้องตัวใครตัวมันแล้วล่ะคร๊าบบ.

 

fanpage2

บทความโดย : คุณชายมะนาว..กับหุ้นสายสีลม

https://stocksilomline.wordpress.com

ภาพประกอบ จาก Internet

เล่นหุ้นอย่างไรให้มีความสุข ตอนที่ 3

 

เล่นหุ้นอย่างไรให้มีความสุข ตอนที่ 3

บทความโดย : คุณชายมะนาว..กับหุ้นสายสีลม 

https://stocksilomline.wordpress.com

ในสภาวะที่ตลาดหุ้นอยู่ในสภาพขาลงจนเป็นสภาวะของตลาดหมีเหมือนอย่างที่กำลังเป็นอยู่ในเวลานี้ หลายคนคงจะออกอาการกลุ้มใจ รู้สึกกระสับกระส่าย จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ยิ่งเห็นหุ้นของตัวเองที่กำลังถืออยู่ออกอาการไม่รักดี..เล่นตกเอ๊าตกเอาอยู่อย่างนี้ เห็นแล้วก็ยิ่งกลุ้มใจที่เห็นพอร์ตของตัวเองแดงเทือกเข้าไปทุกทีๆ ไอ้ครั้นจะขายก็ใจไม่ด้านพอ เล่นลงจนพอร์ตติดลบ 40% -50% ซะขนาดนั้นใครจะไปขายได้ลง สุดท้ายก็ได้แต่นั่งถอนหายใจบางคนอาจถึงกับถอดใจ..เฮ้อ..!! เล่นหุ้นทำไมมันถึงได้เครียดขนาดนี้น๊าา ..??

 

จะว่าไปแล้วการเล่นหุ้นมันไม่ได้เครียดขนาดนั้นหรอกครับ คุณสามารถที่จะทำชีวิตของตัวคุณให้มีความสุขได้ ไม่ว่าสภาพของตลาดหุ้นในเวลานั้นมันจะอยู่ในสภาพใดก็ตาม ตลาดหุ้นจะอยู่ในช่วงขาขึ้นหรืออยู่ในช่วงขาลง คุณก็สามารถที่จะอยู่กับมันได้อย่างมีความสุข เพียงแค่คุณลองค้นหาความสุขนั้นให้เจอแล้วใช้มันให้เป็น..เท่านั้นเอง

สำหรับบทความนี้จะเป็นตอนที่ 3 ภายใต้หัวข้อ “เล่นหุ้นอย่างไรให้มีความสุข”

(เล่นหุ้นอย่างไรให้มีความสุข ตอนที่ 1)

(เล่นหุ้นอย่างไรให้มีความสุข ตอนที่ 2)

ว่าเราก็ไปแกะรอยกันเลยดีกว่าครับว่าเราจะเล่นหุ้นอย่างไรให้มีความสุขในช่วงที่ตลาดหุ้นยังอยู่ในสภาพขาลงอย่างนี้

 

  1. เล่นหุ้นให้เหมือนเล่นเกมส์

วิธีนี้คุณอาจจะมองว่ามันดูจะไร้สาระไปสักหน่อย แต่เชื่อผมเถอะครับว่าหากคุณมีมุมมองในการเล่นหุ้นเหมือนกับการเล่นเกมส์ คุณจะเล่นหุ้นได้อย่างมีความสุขจริงๆ

การเล่นหุ้นมันก็คือการเล่นเกมส์ทางการเงิน ถึงแม้ว่าภายนอกมันอาจจะดูแตกต่างกับการเล่นเกมส์ทั่วๆไปก็จริง  แต่ในความเป็นจริงแล้วหัวใจของการเล่นหุ้นกับการเล่นเกมส์นั้นมันไม่ได้ต่างกันเลย

ที่คุณเห็นว่ามันแตกต่างกันก็เพราะว่า เวลาที่คุณเล่นหุ้นในใจของคุณนั้นมันมัวแต่จดจ่ออยู่กับคำว่า “กำไร” หรือ “ขาดทุน” และไอ้เจ้าคำว่า “กำไร” หรือ “ขาดทุน” นี่แหล่ะครับ ที่มันทำให้คุณเกิด “ความโลภ” หรือ “ความกลัว” ขึ้นมา ซึ่งมันเป็นตัวการสำคัญที่ส่งผลให้คุณเกิดอาการเครียดขึ้นมาทันทีเมื่อตลาดหุ้นอยู่ในสภาวะตลาดหมี ราคาหุ้นเกิดอาการดำดิ่งพสุธาจนเกินจะห้ามใจ…

ดังนั้น ผมจึงขอแนะนำให้คุณลองสลัดคำว่า “กำไร” หรือ “ขาดทุน” ให้ออกไปจากหัวของคุณซะ ให้จิตใจของคุณจดจ่ออยู่กับเกมส์การเล่นหุ้นเหมือนกับเวลาที่คุณกำลังนั่งเล่นเกมส์ “กำไร” หรือ “ขาดทุน” มันเป็นเพียงแค่ข้อความตอนสุดท้ายของการเล่นเกมส์ที่จะบอกคุณว่าคุณ “แพ้” หรือ “ชนะ”

 

เป็นไงครับ..มันไม่ยากเลยใช่มั๊ยครับ ที่เราจะค้นหาความสุขให้เจอ แล้วรู้จักที่จะใช้มัน วิธีที่ผมนำมาแชร์นี้มันอาจจะยังไม่ถูกกับตัวคุณก็ได้..ไม่เป็นไร..ผมมีวิธีอื่นที่จะมาแชร์ให้กับคุณอีก..ซึ่งจะอยู่ในบทความต่อไปครับ.

fanpage2

บทความโดย : คุณชายมะนาว..กับหุ้นสายสีลม

https://stocksilomline.wordpress.com

ภาพประกอบ จาก Internet